วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

10 ข้อคิดเพิ่มคุณค่าให้ชีวิต

มี 10 ข้อคิดดี ๆ ที่ช่วยเพิ่งคุณค่าให้ชีวิตมาฝากกัน...

1. จริงอยู่ ที่มิตรภาพความเป็นเพื่อนนั้นไม่มีวันหมด แต่คุณอาจลืมไปว่ามันเปลี่ยนแปลงได้

2. เมื่อคุณตระหนักว่า ไม่มีใครช่วยคุณ ในเวลาที่คุณมีความทุกข์ ไม่มีใครดีใจอย่างจริงใจกับคุณ ยามเมื่อคุณมีความสุข เมื่อนั้นคุณเรียนรู้ที่จะหาเพื่อนแท้ให้กับชีวิตคุณได้แล้ว

3. อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ปล่อยความเจ็บปวดความทรมานที่ได้ประสบ ผ่านไปกับอดีตด้วย

4. อย่าละเลยและเพิกเฉยต่อคนที่คุณชอบพอ เพราะมัวคิดว่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ชีวิตคนเราแสนสั้น จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้

5. คุณไม่ได้ตายจากความเจ็บปวดในชีวิตที่ผ่านมา แต่มันทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น

6. อย่าให้ชีวิตขึ้นกับคนอื่น เพื่อทำให้คุณมีความสุข

7. ชีวิตแต่งงานและครอบครัว เป็นเรื่องที่สำคัญ จงอย่ารีบร้อนในการตัดสินใจ

8. แสดงความชื่นชมกับคนที่คุณรักและห่วงใย ในทุก ๆ วัน ไม่ใช่แค่วันหยุดหรือวันเกิด

9. ผู้คนผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ ทั้งด้วยเหตุผลและด้วยโอกาส ซึ่งนำพาทั้งความสุขและบทเรียนมาให้คุณ

10. เมื่อใดก็ตามที่ผิดหวัง จงมองโลกในแง่ดีเข้าไว้
รู้อย่างนี้แล้ว ก็ลองนำข้อคิดดี ๆ นี้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันกันได้

สวัสดีปีใหม่

สวัสดีจ้าเพื่อน
Happy New Year จ้า

ใกล้จะถึงปีใหม่แล้วนะ
สิ่งที่ไม่ดีก็ลืมมันไป ตั้งใจทำในสิ่งที่ดีๆ
แล้วก็ประสบความสำเร็จในชีวิตกันทุกๆคนน๊า

ปีใหม่ปีเพื่อนๆก็คงวางโปรแกรมไปเที่ยวกันแล้วซินะ
เราก็จะไปเหมือนกัน
ปีนี้เราไปเกาะพีพี ที่กระบี่จ้า

เอาเป็นว่า เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังแล้วกันมาเป็นยังไง

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เปิดเทอมใหม่

^^


ตอนนี้ก็เปิดเทอมแล้ว ปิดเทอมเราไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย เพราะต้องเรียนพิเศษทุกวัน ไม่ได้พักเลย ตอนเรียนก็ตื่นบ่าย 55+ ความจริงที่เรียนพิเศษปิดคอสวันที่28 ด้วยซ้ำ แต่ด้วยความขยัน<รึป่าว>จึงกลับมาก่อน
แต่ยังไงก็กลัลมาไม่ทันวันเปิดเทอมอยู่ดี ตอนนี้การบ้านเยอะมากเลยคาบว่างก็ไม่มี อยากกลับไปอยู่ม.ต้นมากๆ แต่ยังไงก็ต้องสู้!! สู้เพื่ออนาคตของเรา^^


อนาคตที่สดใสรอเราอยู่....สู้ต่อไปทาเคชิ!!^^



...........................................................................

เคล็ดลับหน้าสวยด้วยผลไม้

ไม่ต้องเปลืองตังค์ ไปซื้อเครื่องสำอางค์ราคาแพง ๆ คุณผู้ชายก็ใช้ได้นะ เป็นสูตรง่าย ๆ น้ำผลไม้ใกล้ ๆ ตัว มาปั่น บด ผสมผสานกันก็กลายเป็นเครื่องประทินผิวสวยได้แล้ว รับรองได้ว่าเป็นอันตรายแน่นอน
สูตรสาวหน้าใสน้ำผึ้งผสมมะนาว
ส่วนผสม มีแค่น้ำผึ้งกับน้ำมะนาว ใช้น้ำผึ้ง 1 ถ้วย กับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้า นวดไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้มะนาว จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเช่นเดียวกับครีมที่ผสมกรด AHA ส่วนน้ำผึ้งจะทำให้ผิวหน้านุ่มและชุ่มชื้น
สูตรสาวหน้าใสด้วยแอปเปิ้ล
ใช้แอปเปิ้ล ปอกเปลือกแล้วคว้านเอาเฉพาะเนื้อ นำมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ นำมา ทาให้ทั่วใบหน้า แล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น สูตรนี้จะช่วยขจัดเซลล์ ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ใบหน้าดูสดใสเปล่งปลั่ง อีกด้วย
สูตรกระชับรูขุมขน
ใช้กล้วยหอม แตงกวาหรือมะเขือเทศก็ได้ เลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งปอกเปลือก เอาเมล็ด ออกให้หมดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เติมน้ำผึ้งหรือนมเปรี้ยวลงไป นำไปปั่นให้ละเอียด จนเป็นเนื้อ ครีม นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรนี้จะ ช่วยทำความสะอาดใบหน้า และกระชับรูขุมขนและบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
สูตรครีมทำความสะอาดผิวหน้า (Cleanser)
ใช้โยเกิร์ต 1/2 ถ้วย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมะนาวสด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ นำส่วนผสม 3 ชนิดผสมให้เข้ากัน นำพอกให้ทั่วหน้าประมาณ 5 นาที ทุกเช้าและก่อนนอน แล้วจึงล้างออก ด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้ใช้ได้กับทุกสภาพผิว จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก และบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอีกด้วย
สูตรสาวผิวแห้ง มอยเจอร์ไรเซอร์จากกล้วย
นำกล้วย 1 ผล ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ บดให้เข้ากัน นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น สูตรนี้เหมาะกับผิวแห้ง
สูตรพอกหน้าใสจากแตงกวา ใช้แตงกวา 1 ผล ไข่ไก่ 1 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่ขาว) และมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ หั่นแตงกวาเป็น ชิ้นบางๆ นำไปปั่นพร้อมกับไข่ขาวและใส่น้ำมะนาวลงไป ปั่นจนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน นำมา พอกให้ทั่วใบหน้า เว้นรอบปากและดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างหน้าตามปกติ หมั่นทำบ่อยๆ ทุกสัปดาห์ จะช่วยลดความมันส่วนเกิน และยังช่วยกระชับรูขุมขน ผิวหน้าจะ ดูเนียนเรียบและชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม
เคล็ดลับที่ควรคำนึงถึง
ผลไม้ที่ใช้ต้องสด มีคุณภาพดี
ภาชนะที่ใช้ใส่ผลไม้ ส่วนผสมต่างๆ ควรใช้แก้วหรือกระเบื้อง
ก่อนทำการพอกหน้า ควรทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาด โดยการอัง ใบหน้ากับไอน้ำและนวดเบาๆ เพื่อเปิดรูขุมขน
เวลาพอกหน้าไม่ควรพูดคุยหรืออ่านหนังสือ

*ที่มา:http://www.ku.ac.th/e-magazine/december45/know/face.html

บทความวิชาถาษาอังกฤษ

I want to pay attention.I want to get a high marks.I want to study at Chiang-Mai of University.
I want to be a good person.And Iwant to get a good job. In the future I want to be a Doctor.
Because ,Iwant to help my patient,and this job will make me have a lot of money.

บทความวิชาภาษาอังกฤษ

What my parent want me to do??

My parent want me to pat attention.They want me to get a high marks.They want me to be a good person.They want me to have good job. They want me to be a Doctor,Because that work will make me have a lot of money.They expect me very high.Because they want me to have succedful in my lift.

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551

บทความวิชาภาษาไทย

หัวใจชายหนุ่ม

เรื่องย่อของจดหมายที่ประพันธ์เขียนถึงประเสริฐมีดังนี้

ฉบับที่1

"ประพันธ์"ชายหนุ่มนักเรียนนอกเขียนจดหมายหา"ประเสริฐ" เพื่อนรักที่ลอนดอน
ขณะนี้เขาอยู่บนเรือ และได้พบกับหญิงงามผู้หนึ่งรูปล่างคล้ายแฟนจึงคิดถึง แต่
หล่อนจะมีนิสัยจองหองนิดๆ แต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว

ฉบับที่4

ฉบับนี้ประพันธ์เล่าว่าเมื่อมาถึงเมืองไทย คุณพ่อได้พาไปไหว้ญาติผู้ใหญ่มากมาย
พ่อต้องการให้เขาเข้ารับราชการในวัง แต่ทว่าหน้าที่เต็มหมดแล้ว ต่อมาพ่อได้จับให้
เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเลือก แต่เขาไม่ยอมเนื่องจากเป็นเด็กสมัยใหม่ ประพันธ์ใช้
ชีวิตเรื่อยๆ เซงๆที่เมืองไทยไม่มีที่เที่ยวแบบลอนดอน จนวันหนึ่งเขาได้พบกับสาวคนหนึ่ง
ที่โรงพัฒนากร หล่อนเป็นสาวทันสมัย ประพันธ์พอใจในตัวหล่อนอยู่ไม่น้อย แต่ยังไม่มีโอกาส
ได้ทำความรู้จัก

ฉบับที่5

ฉบับนี้ประพันธ์เล่าว่าเขาได้เข้ารับราชการในกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์ ส่วนหญิงที่
เขาได้พบในโรงพัฒนากรเมื่อวันก่อน เขาได้ทราบว่าหล่อนชื่อว่า "อุไร" เป็นลูกสาว
พระพินิฐพัฒนากร เป็นสาวสมัยใหม่ กล้าคิด กล้าแสดงออก

ฉบับที่6

ฉบับนี้ประพันธ์เล่าว่าตอนนี้เขาเริ่มสนิทสนมกับอุไรมากขึ้นแล้ว เนื่องจาก"ประไพ"น้องสาว
ของประพันธ์ได้คอยเป็นแม่ ประพันธ์บรรยายรูปร่างหน้าตาของอุไรให้ประเสริฐฟังว่าหล่อน
เป็นสาวที่สวย น่ารัก งดงาดทั้งรูปกาย และวาจาไพเราะ เป็นหญิงที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ
ทั้งหลายในละแวกนี้

ฉบับที่9

ประพันธ์เล่าว่าเขาได้แต่งงานกับอุไรเรียบร้อยแล้ว แม้ว่างานแต่งของทั้งคู่จะไม่ได้เป็นไปอย่าง
ราบเรียบแต่ทว่าพวกเค้าก็ผ่านมาได้ ในตอนแรกที่ประพันธ์บอกพ่อว่ารักใคร่กับอุไร ท่านก็โวยวาย
ไม่ชอบอุไร แต่ทว่าทั้งสองคนได้ลักลอบได้เสียกันแล้ว ทำให้พ่อต้องยอมรับ งานแต่งของทั้งคู่
จึงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย จากนั้นทั้งคู่ได้พากันไปฮันนีมูนที่หัวหิน

ฉบับที่11

ฉบับประพันธ์เล่าว่าขณะไปฮันนีมูนทั้งสองทะเลาะกันทุกวัน เขาไม่เข้าใจอุไรว่าทำไมต้องทำตัวเป็น
สาวสมัยใหม่ที่ไม่ยำเกรงสามี ชอบพูดจาข่มขู่ เขาเข้าใจว่าหล่อนคงจะเบื่อที่หัวหิน จึงพากลับกรุงเทพฯ
แต่ทว่าพอมาถึงกรุงเทพฯหล่อนก็วีนอีก เนื่องจากมีคนมารับ ถึงเวลากินข้าวอาหารไม่ถูกปากก็โวยวาย
เขาคิดว่าไม่ว่าตนจะทำอะไรก็มองดูจะเป็นที่ขัดใจไปซะทุกอย่าง และเขียนมาบอกเนื่องจากเขาเห็น
ว่าประเสริฐเป็นเพื่อนที่เขารัก จึงอยากจะระบายให้ฟัง


.....................................................................................................

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องหัวใจชายหนุ่ม

เราได้เอามาลงบล๊อกเพื่อให้เพื่อนได้อ่านกัน

ยังไงก็แสดงความคิดเห็นกันได้นะว่าตัวละครแต่ละตัว

เป็นยังไง สวัสดีค่ะ ^^

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551

หวาดดีจ้า เพื่อนๆๆ

ช่วงเวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิ๊น

โอ๊วๆๆๆ

กีฬาสีจบลงไปแล้ว

ปีนี้หมิวได้อยู่สีชมพู อิอิ

เปงสีที่รอคอยมาน๊าน นาน ม๊ากกกกกก

และในที่สุดก็มันก็มาถึง ฮ๋าๆๆๆ

ตอนนี้หมิวอยู่เกือบทุกสีแล้ว

ขาดก็แค่สีเขียว ก๊า สีม่วง

เห้อๆๆๆๆๆๆ

ตอนนี้ก็หมดเวลาสนุกแล้วซิ ได้เวลากลับเข้าสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง
อิอิ

เมื่อเรากลายเป็นคนที่ถูกลืม

หนักหนากว่าความตาย....คือ การที่กลายเป็นคนที่ถูกลืม..
more than bored : Sad, more than sad : Unhappy, more than unhappy : Ill, more than ill : Abandoned, more than abandoned : Alone in the world, more than alone in the world : In exile, more than in exile : Dead, more than dead : Forgotten.
......
......
หนักหนากว่าความเบื่อ คือเศร้า , หนัหนากว่าความเศร้า คือชีวิตไร้สุข, หนักหนากว่าชีวิตที่ไร้สุข คือป่วยไข้, หนักหนากว่าความป่วยไข้ คือการถูกทอดทิ้ง, หนักหนากว่าถูกทอดทิ้ง คืออยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวบนโลกใบนี้, หนักหนากว่าการอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวบนโลกใบนี้ คือ พลัดพราก, หนักหนากว่าความพลัดพราก คือตาย, ...หนักหนากว่าความตาย คือถูกลืม

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

0oHOoOo//^,.^ ---->M@RK3T

When I go to the Marget,I alway buy some ice cream//^,.^

I usually go with my younger brother >///<.

We spend a lot of time to shopping at monday marget - -".

my younger brother alway shopping window O_o".

For me,shopping is war easy to start but hard to stop!^0^".

"^_ THE END_^"


//^,.^ --->I w@nnT 2 B @.........

My dream occupation

In the future,I want to be a Doctor.Because this work's fame
occupation.And now,Thai have diminish doctors.I alway happiness to
take care my patient.Now the earth have a lot of diseases.But! the
doctor ,machine of physician is not enough.This season,I want to be
a Doctor and this work'll make me have a lot of money and stable position.

วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

I w@nnT 2 TeLL U //^,.^ ------------->>

วิเคราะห์เนื้อหาวิชาภาษาไทย
ตอนนี้วิชาภาษาไทยของเรากำลังเรียนเรื่องอิเหนาอยู่
ช่วงนี้คุณครูอมราสั่งให้ทำแบบฝึกหัดด้วยหล่ะ
  1. "ความรัก"ระหว่างเท้ากะหมังกุหนิงกับวิหยาสะกำกับ"ความรัก"ระหว่างอิเหนากับนางทั้งสามให้ข้อคิดแก่นักเรียนอย่างไรบ้าง:ตอบ ความรักระหว่างพ่อ-ลูก ผู้เป็นพ่อไม่ควรตามใจลูกมากเกินไป ความรักระหว่างสามรี-ภรรยา เป็นความรักที่ดีแต่อิเหนาไม่ควรผิดคำพูดที่หมั้นกับบุษาไว้
  2. เปรียบเทียบการต่อสู้ของวิหยาสะกำกับสังคามาระตาและการต่อสู้ระหว่างอิเหนากับเท้ากะหมังกุหนิงว่ามีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร:ตอบ แตกต่างกันเพราะท้าวกะหมังกุหนิงกับอิเหนามีฝีมือการรบเท่าเทียมกันแต่ที่ท้าวกะหมังกุหนิงต้องตายเพราะก้าวเท้าผิดจังหวะการรบ
  3. การใช้อารมณ์โดยปราศจากเหตุผลของตัวละครในเรื่องตอนใดที่ส่งผลก่อให้เกิดความเสียหายทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม:ตอบ ตอนที่เท้ากะหมังกุหนิงตัดสินใจทำศึกกับเท้าดาหา เพราะตามใจลูกมากเกินไป
  4. พฤติกรรมของตัวละครในเรื่องอิเหนามีลักษณะใดบ้างที่ปรากฎให้เห้นได้ในยุคปัจจุบันและพฤติกรรมเหล่านั้นส่งผลเสียต่อสังคมไทยอย่างไร:ตอบ การตามในลูกมากเกินไป ผลกระทบคือ ลูกมีนิสัยไม่ดีอาจทำให้สังคมวุ่นวาย,การพูดไม่เป็นคำพูด ผลกระทบคือ เสียการเสียงาน เสียเวลาอาจทะเลาะกัน